News

Home > News

News

เหตุการณ์โรคในประเทศ
 

คร.เผยป่วย “ไข้หวัดใหญ่” สูงขึ้น 3 เท่า ไม่มีข้อมูลยืนยัน “โควิด” ทำหวัดใหญ่รุนแรง

icon 03/09/2566 เหตุการณ์โรคในประเทศ
คร.เผยป่วย “ไข้หวัดใหญ่” สูงขึ้น 3 เท่า ไม่มีข้อมูลยืนยัน “โควิด” ทำหวัดใหญ่รุนแรง

โควิดเริ่มคลี่คลาย แต่ต้องระวัง “ไข้หวัดใหญ่”

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อทางเดินหายใจในประเทศไทย หลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายแล้ว ว่า ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากเป็นหน้าฝน และมีหลายกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น โรงเรียน ค่ายทหาร เป็นต้น ทั้งนี้ตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2566 มากกว่าปี 2565 ถึง 3 เท่า โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 จนถึงวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา อยู่ 97,052 ราย ซึ่งดูแล้วอัตราการป่วยในแต่ละสัปดาห์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วก็เพิ่มขึ้น 3 เท่าเช่นเดียวกัน ส่วนที่มีอาการรุนแรงนั้นมีอยู่จำนวนหนึ่ง ในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ส่วนที่เสียชีวิตที่รายงานมาอย่างเป็นทางการนั้นตั้งแต่เดือน ก.พ. จำนวน 1 ราย อายุ 39 ปี มีประวัติดื่มแอลกอฮอล์ และมีปัญหาโรคเกี่ยวกับตับ ไต

“ขณะนี้เราต้องเร่งรัดการป้องกันโรค มีการปฏิบัติมาตรการป้องกันตัว คือหมั่นล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีความเสี่ยง หรือมีอาการ แต่ทางที่ดีคือ หากเริ่มมีอาการป่วยควรหยุดพักผ่อนอยู่บ้าน เพื่อไม่ให้ไปแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และขอให้กลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ประจำปีที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน” รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

ไม่จริง! กรณีป่วยโควิด ทำภูมิฯบกพร่อง ติดไข้หวัดใหญ่อาจรุนแรงขึ้น

เมื่อถามว่ามีบางคนมีข้อกังวลว่า เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิดเยอะ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และสภาพร่างกายมีความบกพร่องหลายส่วน ทำให้เวลาติดเชื้อไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื่ออื่นๆ หรือมีโอกาสเจ็บป่วย แล้วอาการรุนแรงมากขึ้น นพ.โสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะจริงๆ แล้วภูมิคุ้มของร่างกายนั้นฉลาดกว่าที่เห็น มันสามารถแยกแยะได้ มีความจำเพาะต่อเชื้อโรค เช่น ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มันก็จะป้องกันเฉพาะไข้หวัดใหญ่ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ก็ป้องกันเฉพาะโควิด แต่ก็จะมีภูมิคุ้มกันบางส่วนที่เป็นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่อาจจะป้องกันหลายโรคพร้อมกัน ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะช่วยเหลือกัน คือช่วยร่างกายให้กำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าฉีดวัคซีน หรือเคยติดโควิดมาก่อนแล้วจะมีผลให้การติดเชื้อไขหวัดใหญ่หรือเชื้ออื่นรุนแรงขึ้นนั้นก็ไม่จริง

เมื่อถามว่า การติดโควิดมาก่อนทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายภายแย่ลง แล้วจะส่งผลให้เมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วอาการรุนแรงขึ้นหรือไม่ หรือเพิ่มโอกาสที่ร่างกายจะเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่นๆ แล้วอาการรุนแรงมากขึ้น  นพ.โสภณ กล่าวว่า มันไม่มีข้อมูลที่สะท้อนไปในทางนั้น เพราะความรู้ที่ชัดเจน และรับรู้ในวงกว้าง ก็ยังเป็นเรื่องความจำเพาะ ไม่ได้มีผลอะไร แล้วอย่าลืมว่า โควิดเป็นโรคที่มีการระบาดทั่วโลก หากมีปัญหาก็มีปัญหาทั่วโลก ไม่ใช่จะมีปัญหาแค่ในประเทศไทย ซึ่งก็ยังไม่เห็นนักวิทยาศาสตร์ประเทศอื่นออกมาให้ข้อมูลในแนวนี้ อีกทั้งระบบภูมิคุ้มกัน เป็นความรู้สากล หากมีปัญหานี้ประเทศอื่นก็น่าจะมีการพูดคุย หรือมีความกังวลในเรื่องนี้เหมือนกัน ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีปัญหาการระบาดของโรคโควิดรุนแรงนักเมื่อเทียบกับประเทศแถบตะวันตก หรืออเมริกา หากมีปัญหาอย่างที่ว่าก็ต้องเกิดก่อนในประเทศที่มีการระบาดมาก

เชื้อหวัดใหญ่รุนแรงหรือไม่ขึ้นกับ 2-3 ปัจจัย

เมื่อถามต่อว่า มีหลายคนที่เคยติดโควิด แล้วเกิดการติดเชื้อหวัดจึงรู้สึกว่าตัวเองมีอาการหนักกว่าเดิม แต่จริงๆ แล้ว การติดเชื้อหวัดต่างๆ แล้วอาการรุนแรงมีอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงบ้าง นพ.โสภณ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ 2-3 ปัจจัย อันแรกคือตัวผู้รับเชื้อเอง คนที่ร่างกายแข็งแรง โอกาสจะมีอาการรุนแรงก็จะน้อย  คนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก กลุ่มที่มีโรคประจำตัวหลายโรค โอกาสที่จะมีอาการมากก็เยอะ ปัจจัยที่ 2 คือเชื้อที่ระบาด ซึ่งตอนนี้ที่ระบาดในไทยก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเยอะ คือเชื้อ H1N1 ซึ่งเป็นเชื้อที่เจอมาตั้งแต่ปี 2009 ปีนี้ก็เป็นปีที่ 14 แล้ว ซึ่งทราบกันดีว่า เป็นเชื้อที่ไม่ได้ก่อความเสียหายรุนแรงอะไร ประกอบกับปัจจัยที่ 3 คือ หากฉีดวัคซีนป้องกันก็จะทำให้ติดแล้วมีอาการน้อย หรือไม่มีอาการเลย

“เพราะประเทศไทยปลอดไข้หวัดใหญ่อยู่ 2 ปี เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด 19 แล้วคนมีการป้องกันตัวกันอย่างเข้มข้น สวมหน้ากากกันทั้งประเทศ จึงเป็นการป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ไปด้วย แต่ไข้หวัดใหญ่ก็เริ่มกลับมาเมื่อปีที่แล้ว ที่เราเริ่มลดมาตรการในประเทศตามความเสี่ยงที่ลดลง แล้วปีนี้ก็มีการระบาดมากขึ้น หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่า แต่ความรุนแรงไม่ได้แตกต่างไปจากอดีต” นพ.โสภณ กล่าว

ที่มา : Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ 

 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอด
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ศูนย์รวมข้อมูลโรคติดต่อ แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
บันทึกการตั้งค่า